วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

"เห็นคุณค่าของตัวเอง" คือทางรอดของชีวิต

หลังจากที่เล่นฟุตบอลมา 8-9 ปี  เพื่อนร่วมงานทุกคนในบริษัทที่เล่นด้วยกัน รวมถึงตัวผมเองต่างก็ลองผิดลองถูก และพยายามสร้างสรรค์ เกมฟุตบอล ให้เป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ตามที่แต่ละคนจินตนาการกันไปทะเลาะกันบ้าง หรือบ่นกันบ้างแล้วก็เงียบไป ไม่สามารถหาข้อสรุปใดๆได้  เหมือนกับชีวิตการทำงานในบริษัทที่ดำเนินควบคู่พร้อมๆกันไป  จนกระทั่ง 1 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน อาจจะด้วยการตกผลึกของการทำอะไรซ้ำๆ หรือไม่ ผมสันนิฐานว่าอย่างนั้น   ผมเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างที่อาจจะดูไม่แปลกสำหรับคนอื่นหรืออาจจะไม่ใช่สำหรับคนอื่น  แต่ผมก็รู้สึกว่าสิ่งนั้นเริ่มสอนผม  เหตุการณ์บางเหตุการณ์ทำให้ผมรู้ว่าการเห็นคุณค่าในความเป็นตัวเองเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสังคมในยุคที่ เต็มไปด้วยสื่อต่างๆที่นำเสนอชีวิตของคนอื่นๆที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และมีชีวิตที่โก้หรู สะดวกสบาย ซึ่งผมตามหามันมาตลอด 39 ปี
       วันนึงในขณะที่ผมเล่นฟุตบอลอยู่กับเพื่อนๆในบริษัท ซึ่งผมเองรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถในการเล่นบอลอยู่ระดับนึงที่ไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงขนาด เป็นเป้านิ่ง ทีมคู่แข่งโจมตีได้ หลายครั้งที่ขึ้นไปเล่นอยู่กองหน้า(ทั้งที่ไม่มีใครเห็นด้วย) และหลายครั้งก็สามารถทำประตูได้ แบบบังเอิญ ๆ  จนเกิดความมั่นใจในตัวเองอยู่บ้าง (ก็ยังไม่มีใครเห็นด้วยอยู่ดี)  วันนั้นผมเล่นอยู่กองกลาง ซึ่งมีหน้าที่คอยสกัดบอลจากทีมคู่แข่ง แต่เกิดรู้สึกอยากเล่นกองหน้าบ้างจึง ขอเจ้านายที่เล่นอยู่กองหน้าขึ้นไปเล่นในตำแหน่งนั้นแทน โดยไม่ได้บอกใครในทีม  เมื่อการเล่นครึ่งที่2 เริ่ม ปรากฏว่าไม่มีใครส่งบอลให้เลย เพราะทุกคนไม่มั่นใจว่าจะทำประตูได้จึงไม่ส่งให้ ผมพิจารณาด้วนสติได้โดยไม่รู้สึกโกรธแต่อย่างใด จึงขอเปลี่ยนตัวเองออกมา ยืนดูเฉยๆ เกมจึงดำเนินไปได้ดี  จริงๆแล้วเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ผมกลับรู้สึกโมโหที่เพื่อนร่วมทีมมองทีตัวตนของคนเล่นมากกว่าตำแหน่งที่ยืน เช่นถ้าคนไหนเล่นเก่ง ก็จะส่งให้คนนั้นโดยไม่สนใจตำแหน่งยืน ซึ่งมันไม่ใช่การเล่นบอลที่ถูกวิธี (ผมคิดอย่างนั้น)   แต่ในวันนี้ ผมกลับรู้สึกว่า นี่แหละชีวิตล่ะ
      ผมเก็บเอาเหตุการณ์นี้ไปนั่งคิดต่อ แล้วสรุปเอาเอง(คิดเอาเอง) ว่า  ถ้าผมทำหน้าที่ของผมอย่างสม่ำเสมอ ในสายตาของเพื่อนร่วมทีม ผมจะสามารถอยู่ในเกมการแข่งขันได้ ไม่ว่าผมจะเก่งหรือไม่เก่งแค่ไหน และเมื่อใดก็ตามผมเปลี่ยนตัวเองไปอยู่ในจุดใหม่ที่ทุกคนไม่มั่นใจ  ผมจะไม่ได้รับการยอมรับ และถูกผลักออกจากเกมทันที  มันช่างคล้ายกับชีวิตจริงของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตที่ผมได้อ่านจากนิตยสารต่างๆ (ผมคิดอย่างนั้น)
      เอาล่ะ ผมเริ่มกลับมามองปัญหาในชีวิตของผมแล้ว  ผมมันมีความคิดที่วนเวียนไปมาอยู่ตลอดเวลาเรื่องการทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และมักรู้สึกว่าอาชีพที่ทำอยู่ไม่รุ่งเอาซะเลย จนขาดความมั่นใจในการทำงานและอยากเปลี่ยนอาชีพ แต่ก็ได้แค่คิดไปวันๆ   เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นผมเริ่มรู้สึกอยากคิดใหม่ว่า ไม่ว่าผมจะเก่งหรือไม่ จะรุ่งหรือไม่ ผมก็เป็น Designer คนหนึ่ง ทุกคนรู้จักผมในฐานะ Designer ที่อาจจะไม่เก่ง แต่ผมก็เป็นและยืนอยู่ในจุดนี้ มา 16 ปี  และรู้อะไรๆในเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ  วันนี้ผมภูมิใจที่จะเรียกตัวเองว่า ผมเป็น Designer ครับแต่ผมไม่เก่งนะ  แต่เรื่องไม่เก่งเนี่ยะ มันไม่ยากเลยมันฝึกกันได้ ขอแค่ผมอยู่ในเกมก็พอ   เมื่อคิดได้อย่างนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป แบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น